I am going to change my pen name to this
I`ve made a separate blog which I specifically use for ranting. http://themasterranter.blogspot.com/
Monday, November 25, 2013
Wednesday, November 6, 2013
กลยุทธ์โฆษณาโดยใช้ชื่อเสียงด้านลบมาเป็นโอกาส
วันก่อนมีดราม่ากันเรื่องเอานมก ับเรื่องเพศมาใช้ในโฆษณา
จึงอยากขอพูดถึงเรื่อง กลยุทธ์โฆษณาโดยใช้ชื่อเสียงด้า นลบมาเป็นโอกาส
ซึ่งวิธีการนี้ก็มีทั้งที่ทำโดย ตั้งใจกับไม่ตั้งใจ แต่โดยส่วนมากจะไม่ตั้งใจมากกว่ า
ที่มาของกลยุทธ์นี้มีอยู่ว่า การมีชื่อเสียงในด้านลบ (Infamy) มีประโยชน์และดีกว่าไม่เป็นที่ร ู้จักเลย(Unknown) จึงเอาInfamyมาใช้สร้างกระแสให้ เป็นที่รู้จัก
------------------------------ ---------------------
ตัวอย่าง แบบตัวละครใน DragonsCrown นั้น มีFeministฝ่ายตะวันตกจำนวนมากท ี่ไม่ชอบและทำการประนามKamiyaGe orgeผู้กำกับและประธานของVanill awareอย่างกว้างขวาง แต่ตัวผู้กำกับเองก็ไม่ยี่หระ และทำการโต้กลับด้วยการวาดรูปDw arfเปลือย3คนกลับไปให้คนที่ประท ้วง
ผลที่ได้ กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของDragonsC rownไม่ได้เห็นว่าเป็นเรื่องระด ับที่จะเรียกว่าเสียหายอยู่แล้ว ทำให้เป็นการโปรโมททางอ้อมและยิ ่งเป็นที่รู้จักขึ้นไปอีก
ถ้าอย่างกรณีในไทยเร็วๆนี้ ก็มี บอย4ยก เป็นต้น - ผมพึ่งจะรู้ว่าบอยเป็นใครก็คราว นี้หละ
------------------------------ ---------------------
ทว่า วิธีการนี้มีข้อจำกัดถึงตายข้อห นึ่งที่ต้องรักษา ก็คือ การกระทำนั้นจะต้องไม่ใช่สิ่งที ่กลุ่มลูกค้าหลักรังเกียจ
ตัวอย่าง มีโรงงานเสื้ออยู่แห่งหนึ่ง พิมพ์ลายเสื้อที่มีเนื้อหาสนับส นุนการกระทำความรุนแรงต่อสตรี
ผลที่ได้คือ โรงงานที่เปิดมา10ปี ล้มละลายด้วยเสื้อตัวเดียว
จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องไตร ่ตรองให้ดีก่อนหากจะใช้กลยุทธ์น ี้
------------------------------ ---------------------
ในความเกี่ยงเนื่องกัน หากท่านเห็นว่าเรื่องที่ถูกกระท ำเป็นเรื่องไม่สมควร การที่ไปประนามหรือแชร์เรื่องนั ้น หากไม่สามารถรุกฆาตให้ถึงตายได้ ในทีเดียว จะเป็นการช่วยเหลือศัตรูทางอ้อม
วิธีการที่ดีที่สุดคือ ช่างมัน ไม่ไปทำเรื่องให้ใครรู้ครับ
------------------------------ ---------------------
หลักการเดียวกันนี้ ยังสามารถใช้กับบรรดาเกรียนเทพไ ด้
ถ้ามีใครมาเกรียนกับคุณ ปล่อยให้เขาเกรียนไปเพื่อเป็นกา รโฆษณา
ถ้าคุณรำคาญพวกมนุษย์เกรียน ยิ่งไปยุ่งทำไหร่ จะทำให้พวกนี้ยิ่งดังและฟินกับค วามดังของตัวเอง
การไม่ทำอะไรเลย ให้พวกมันรู้สึกเบื่อ จึงเป็นวิธีการที่ได้ผลกว่าครับ
จึงอยากขอพูดถึงเรื่อง กลยุทธ์โฆษณาโดยใช้ชื่อเสียงด้า
ซึ่งวิธีการนี้ก็มีทั้งที่ทำโดย
ที่มาของกลยุทธ์นี้มีอยู่ว่า การมีชื่อเสียงในด้านลบ (Infamy) มีประโยชน์และดีกว่าไม่เป็นที่ร
------------------------------
ตัวอย่าง แบบตัวละครใน DragonsCrown นั้น มีFeministฝ่ายตะวันตกจำนวนมากท
ผลที่ได้ กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของDragonsC
ถ้าอย่างกรณีในไทยเร็วๆนี้ ก็มี บอย4ยก เป็นต้น - ผมพึ่งจะรู้ว่าบอยเป็นใครก็คราว
------------------------------
ทว่า วิธีการนี้มีข้อจำกัดถึงตายข้อห
ตัวอย่าง มีโรงงานเสื้ออยู่แห่งหนึ่ง พิมพ์ลายเสื้อที่มีเนื้อหาสนับส
ผลที่ได้คือ โรงงานที่เปิดมา10ปี ล้มละลายด้วยเสื้อตัวเดียว
จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องไตร
------------------------------
ในความเกี่ยงเนื่องกัน หากท่านเห็นว่าเรื่องที่ถูกกระท
วิธีการที่ดีที่สุดคือ ช่างมัน ไม่ไปทำเรื่องให้ใครรู้ครับ
------------------------------
หลักการเดียวกันนี้ ยังสามารถใช้กับบรรดาเกรียนเทพไ
ถ้ามีใครมาเกรียนกับคุณ ปล่อยให้เขาเกรียนไปเพื่อเป็นกา
ถ้าคุณรำคาญพวกมนุษย์เกรียน ยิ่งไปยุ่งทำไหร่ จะทำให้พวกนี้ยิ่งดังและฟินกับค
การไม่ทำอะไรเลย ให้พวกมันรู้สึกเบื่อ จึงเป็นวิธีการที่ได้ผลกว่าครับ
Tuesday, November 5, 2013
ปัญหาโลกแตกสำหรับคนออกแบบ
ปัญหาโลกแตกสำหรับคนออกแบบ - การปะทะระหว่างสายบริหารกับสายค รีเอทีฟ
เวลาทำแบบอะไรออกมาแล้วต้องดูFe edback - สมมุติว่ามีอยู่2แบบ
แบบแรกfeedbackดีกว่า ฝ่ายบริหารเลยบอกว่าเอาอันนี้ตา มใจลูกค้า
แบบที่สอง ฝ่ายครีเอทีฟเห็นแล้วว่าตรงกับเ นื้อหา และเหมาะกว่าในภาพรวม หรือไม่ก็แปลกให่กว่า
ถ้าจะเอาตามใจลูกค้า - ลูกค้าเองไม่ใช่ครีเอทีฟ และมีแนวโน้มจะบอกว่าชอบอะไรบนพ ื้นฐานของประสบการณ์ตัวเองมากกว ่า เช่น คนที่โตมากับการ์ตูนย์ดิสนีย์ ก็จะบอกว่าการ์ตูนย์ต้องแบบนั้น ของญี่ปุ่นไร้สาระ เป็นต้น
ทำให้ผลงานที่ออกมา จะถูกดึงไปที่เส้นมาตรฐานและขาด เอกลักษณ์
ข้อดี - สามารถรับรองรายได้ๆในระดับหนึ่ ง
ข้อเสีย - ยากต่อการทำสิ่งใหม่ๆ ผลงานถูกกลืนไปกับกระแสและอยู่ไ ม่ยั่งยืน
ตัวอย่างผลงานที่ดีจากวิธีนี้ - เกมส์กีฬาต่างๆที่สมจริงและไม่ต ้องการความแปลกใหม่
ตัวอย่างผลงานที่ไม่ดีจากวิธีนี ้ - MMOต่างๆที่เลียนแบบWOWแล้วตีตล าดไม่ขึ้น
ถ้าจะเอาตามใจครีเอทีฟ
ข้อดีคือ มีแนวโน้มที่จะผลิตสิ่งใหม่ๆได้ ง่ายกว่า
ข้อเสียคือ ลูกค้าอาจไม่มีประสบการณ์เกี่ยว กับเรื่องดังกล่าว ทำให้ไม่แน่ใจในตัวผลงาน
การคาดการณ์รายได้ทำได้ยากมาก ซึ่งก็อาจจะทำให้งานล่มเลยหรือร ุ่งเลยก็ได้
จะยกตัวอย่างเข้าใจง่าย ก็ผลงานของ Van Gogh ที่ในสมัยตัวเองมีแต่คนด่าเพราะ ไม่เข้าใจ
ต้องรอคนยุคหลังมา ถึงจะเข้าใจว่าเป็นยอดผลงาน
ตัวอย่างผลงานที่ดีจากวิธีนี้ - เกมส์อย่างAngryBird หรือ MineCraft ที่ตอนผลิตมาคนทำก็ยังไม่รู้เลย ว่าจะขายได้หรือเปล่า
ตัวอย่างผลงานที่ไม่ดีจากวิธีนี ้ - ลองไปดูในAppStoreแล้วดูว่ามีอะ ไรที่เห็นแล้วไม่เข้าใจ ไม่มีความรู้สึกอยากเล่น - พวกนั้นละครับ
Subscribe to:
Posts (Atom)